ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
เมื่อมนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานในหมู่เกาะญี่ปุ่นจนถึงช่วงที่ญี่ปุ่นรบเอาอารยธรรมจากจีน
แบ่งออกเป็นสมัยต่าง ๆ เช่น สมัยโจมอน (ประมาณ 7,000 - 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
เป็นวัฒนธรรมสมัยหินและเครื่องปั้นดินเผา สมัยยาโยย (ประมาณ 300
ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 300) เป็นสมัยโลหะและสังคมกสิกรรม
และสมัยโคะฟุง (ค.ศ. 300 – ค.ศ. 600)
เป็นสมัยของการก่อตั้งรัฐและจัดระเบียบทางสังคม
ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยกลาง
ญี่ปุ่นรับเอาอารยธรรมจีนและพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศ
ประวัติศาสตร์สมัยกลางแบ่งได้เป็นสมัยอาสุกะ (คริสต์ศตวรรษที่ 7) สมัยนารา (ค.ศ.
710 –
ค.ศ. 794) เมืองหลวงอยู่ที่เมืองนารา สมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185) เมืองหลวงอยู่ที่เมืองเฮอัน (หรือปัจจุบันคือเมืองเกียวโต)
ซึ่งจักรพรรดิมีอำนาจปกครอง สมัยคามากุระ (ค.ศ. 1185 – ค.ศ.
1333) เป็นสมัยที่โชกุนตระกูลมินาโมโตมีอำนาจปกครองประเทศ
มีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองคามากุระ ต่อมาตระกูลอาชิกางะได้
โค่นล้มตระกูลมินาโมโตและเป็นโชกุนแทนที่ใน ค.ศ. 1333
โชกุนตระกูลาชิกางะมีศูนย์กลางการปกครองที่เมืองมูโรมาจิเขตเมืองเกียวโต
สมัยของมูโรมาจิสิ้นสุดเมื่อเกิดสงครามระหว่างตระกูลต่าง ๆเป็นสงครามกลางเมืองใน
ค.ศ. 1573
ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยใหม่
สมัยใหม่ของญี่ปุ่นเริ่มในสมัยสงครามกลางเมืองหรือสมัยโมโมยามะ (ค.ศ. 1573 – ค.ศ. 1600) จนกระทั่งโตกุกาวา
อิเอยาสุได้ยุติสงครามกลางเมือง และสถาปนาระบอบโชกุนตระกูลโตกุกาวา ศูนย์กลาง
การปกครองที่เมืองเอโดะ ดังนั้นสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1600 – ค.ศ. 1868)
เป็นช่วงที่ระบบศักดินาเจริญสูงสุด ค.ศ. 1868 โชกุนถวายอำนาจการปกครองคืนแก่จักรพรรดิ
จากนั้นญี่ปุ่นได้เข้าสู่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – ค.ศ. 1912)
ซึ่งเป็นสมัยของการปฏิรูปญี่ปุ่นให้ทันสมัยแบบตะวันตก
ต่อมาสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1912 – ค.ศ. 1939) จนกระทั่งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
(ค.ศ. 1939 - ค.ศ. 1945) และสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1945 – ปัจจุบัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น