วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สมัยประวัติศาสตร์


   สมัยประวัติศาสตร์

1.ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ(3,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช-ค.ศ. 476)
เริ่มเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกบริเวณดินแดนเมโสโปเตเมียแถบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรทีสและดินแดนอียิปต์แถบลุ่มแม่น้ำไนล์ที่ชาวเมโสโปเตเมียและชาวอียิปต์รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรได้เมื่อ 3,500 ปี ก่อนคริสต์ศักราชจากนั้นอิทธิ พลของความเจริญของสองอารยธรรมก็ได้แพร่หลายไปยังทางใต้ของยุโรปสู่เกาะครีตต่อมาชาวกรีกได้รับเอาความเจริญจากเกาะครีตและความเจริญของอียิปต์มาสร้างสมเป็นอารยธรรมกรีกขึ้นและเมื่อชาวโรมันในแหลมอิตาลียึดครองกรีกได้ชาวโรมันก็นำอารยธรรมกรีกกลับไปยังโรมและสร้างสมอารยธรรมโรมันขึ้นต่อมาเมื่อชาวโรมันสถาปนาจักรวรรดิโรมันพร้อมกับขยายอาณาเขตของตนไปอย่างกว้างขวางอารยธรรมโรมันจึงแพร่ขยายออกไปจนกระทั่งจักรวรรดิโรมันล่มสลายลงเมื่อพวกชนเผ่าเยอรมันเข้ายึดกรุงโรมได้ใน ค.ศ. 476 ประวัติศาสตร์สมัยโบราณของชาติตะวันตกจึงสิ้นสุดลง
2. ประวัติศาสตร์สมัยกลาง (ค.ศ.476 -ค.ศ.1453)
เริ่มตั้งแต่การสิ้นสุดของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในค.ศ.476 เมื่อถูกพวกอนารยชนเยอรมันเผ่าวิสิกอธ (Visigoth)โจมตี ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิโรมันตะวันตกเมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลงสภาพทั่วไปของกรุงโรมเต็มไปด้วยความวุ่นวายการเมืองเศรษฐกิจและสังคมอ่อนแอประชาชนอดอยากขาดที่พึ่งมีปัญหาเรื่องโจรผู้ร้ายเนื่องจากช่วงเวลานี้ยุโรปตะวันตกไม่มีจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ปกครองดังเช่นจักรวรรดิโรมันนอกจากนี้ยังถูกพวกอารยชนเผ่าต่างๆเข้ามารุกรานส่งผลให้อารยธรรมกรีกและโรมันอันเจริญรุ่งเรืองในยุโรปตะวันตกได้หยุดชะงักลงนักประวัติศาสตร์สมัยก่อนจึงเรียกช่วงสมัยนี้อีกชื่อหนึ่งว่ายุคมืด (Dark Ages) หลังจากนั้น ศูนย์กลางของอำนาจยุโรปได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองไบแซนติ อุม(Byzantium) ซึ่งอยู่ในประเทศตุรกีปัจจุบันโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantion) เป็นผู้สถาปนาจักรวรรดิ แห่งใหม่ที่มี ความเจริญรุ่งเรืองซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อคอนสแตนติโนเปิล(Constantinople) ตามชื่อของจักรพรรดิคอนสแตนตินประวัติศาสตร์สมัยกลางนี้เป็นช่วงเวลาที่มี การเปลี่ยนแปลงอารยธรรมตะวั นตกจากอารยธรรมโรมันไปสู่อารยธรรมคริสต์ศาสนาเป็นสมัยที่ตะวันตกได้รับอิทธิพลอย่างมากจากคริสต์ศาสนาทั้งทางด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและศิลปวัฒนธรรมนอกจากนี้สังคมสมัยกลางยังมีลักษณะเป็นสังคมในระบบฟิวดัล (Feudalism) หรือสังคมระบบศักดิ นาสวามิภักดิ์ที่ขุนนางมีอำนาจครอบครองพื้นที่โดยประชาชนส่วนใหญ่มีฐานะเป็นข้าติดที่ดิน (sert) และดำรงชีวิตอยู่ในเขตแมเนอร์ (Manor) ของขุนนางซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของสังคมสมัยกลางนอกจากนี้ในสมัยกลางนี้ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญคือสงครามครูเสดซึ่งเป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างคริสต์ศาสนากับศาสนาอิสลามที่กินเวลาเกือบ 200 ปีเป็นผลให้เกิดการค้นหาเส้นทางการค้าทางทะเลและวิทยาการด้านอื่นๆตามมาสมัยกลางสิ้นสุดใน ค.ศ.1453 เมื่อพวกออตโตมันเตอร์กสามารถยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิลของจักรวรรดิโรมันตะวันตกได้
3.ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ (ค.ศ.1453-1945)
ประวัติศาสตร์ตะวันตกสมัยใหม่ถือว่าเริ่มต้นใน ค.ศ. 1453 เป็นปีที่ชนเผ่าเติร์กโจมตีและสามารถยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้เป็นผลให้ศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองกลับมาอยู่ในยุโรปตะวันตกอีกครั้งในระหว่างนี้ในยุโรปตะวันตกเองกำลังมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านความคิดและศิลปะวิทยาการต่างๆจากพัฒนาการของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการที่ดำเนินมายุโรปจึงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในครั้งนี้ได้มี การสำรวจและขยายดินแดนออกไปกว้างไกลจนเกิดเป็นยุคล่าอาณานิคมซึ่งต่อมานำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศกลายเป็นสงครามใหญ่ที่เรียกกันว่าสงครามโลกถึงสองครั้งภายในเวลาห่างกันเพียง 20 ปีในช่วงเวลาเกือบห้าร้อยปี ของประวัติศาสตร์สมัยใหม่มี เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมายที่โดดเด่นและมี ผลกระทบยาวไกลต่อเนื่องมาจนถึงโลกปัจจุบันได้แก่ การสำรวจทางทะเล การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ การปฏิวัติอุตสาหกรรมการกำเนิดแนวคิดทางการเมืองใหม่ (เสรีนิยมชาตินิยมและประชาธิปไตย) การขยายดินแดนหรือการล่าอาณานิคม (จักรวรรดินิยม) และสงครามโลกสองครั้งเหตุการณ์สำคัญๆหลายประการในช่วงเวลาของประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ได้ส่งผลสืบเนื่องต่อพัฒนาการของประวัติศาสตร์โลกสมัยปัจจุบันอย่างมากมาย
4.ประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบัน(ค.ศ.1945-ปัจจุบัน) หรือเรียกกันว่าประวัติศาสตร์รวมสมัย
เริ่มตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงซึ่งมี ผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลกและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมการเมืองการปกครองของสังคมโลกในปัจจุบันโดยช่วงประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันมีเหตุการณ์ ดังนี้ สงครามเย็น ยุคโลกาวิวัฒน์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น