วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

สมัยใหม่

สมัยใหม่

สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง     
1. ด้านเศรษฐกิจ  เกิดการตื่นตัวทางการค้า  มีการสำรวจดินแดนใหม่ๆ  (Age of Discovery)
2. กำเนิดชนชั้นกลาง  คือ  พ่อค้าและปัญญาชน  ความเสื่อมของระบบฟิวดัล  พระและขุนนางถูกลดบทบาท
3. การปกครองเปลี่ยนไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์  เกิดแนวคิดความเป็นรัฐชาติ
4. การปฏิวัติวิทยาศาสตร์  เรียกยุคนี้ว่า  Age of Reason และ Age of Enlightenment
 5. การปฏิรูปศาสนา  เกิดนิกายโปรเตสแตนท์  โดย มาร์ติน ลูเธอร์
วรรณกรรม   มีการใช้ภาษาถิ่นแทนภาษาละติน

ศิลปะสมัยใหม่  ( Modern Art )
1. ศิลปะจินตนิยม  ( Romanticism )  ค.ศ.1800-1900
        -  ก่อเกิดในอังกฤษและฝรั่งเศสช่วงระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน  มีทรรศนะคติที่ต้องการความเป็นอิสระในการแสดงออกที่ศิลปินต้องการมากกว่าการเดินตามกฎเกณฑ์และแบบแผนทางศิลปะ  ดังที่ศิลปินลัทธิคลาสสิกใหม่ยังยึดถืออยู่
        -  เป็นศิลปะที่เน้นอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล  มุ่งสร้างสรรค์งานที่ตื่นเต้น  เร้าใจ  ก่อให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจแก่ผู้ชม
2. ศิลปะสัจนิยม  ( Realisticism )  กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19
        -  ศิลปินในยุคนี้ได้แก่  กุสตาฟ  คูร์เบท์ , ฌอง  ฟรังซัวส์  มิล์เลท์
3. ศิลปะลัทธิประทับใจ  ( Impressionism )  ศิลปะแห่งความงดงามของประกายแสงและสี
        -  แสดงภาพทิวทัศน์บก  ทะเล  ริมฝั่ง  เมืองและชีวิตประจำวันที่รื่นรมย์  เช่น  การสังสรรค์  บัลเลต์  การแข่งม้า  สโมสร  นิยมเขียนภาพนอกห้องปฏิบัติงาน
        -  พยายามแสดงคุณสมบัติของแสงสี  อันเป็นผลมาจากความรู้เกี่ยวกับแสงจากสเปกตรัมและสี  ซึ่งเป็นผลผลิตจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
        -  ศิลปินในยุคนี้  ได้แก่  มาเนท์ , โคลด  โมเนท์ , เรอนัวร์ , เดอกาส์ , โรแดง , รอสโซ
4. ศิลปะลัทธิประทับใจใหม่  ( Neo-Impressionism )  สีจากแสงสเปกตรัมมาสู่อนุภาค
        -  เกิดเทคนิคการระบายสีเป็นสีจากจุด  ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อทางฟิสิกส์ว่า  แสง คือ อนุภาค  โดยการระบายสีให้เกิดริ้วรอยพู่กันเล็กๆด้วยสีสดใส  จุดสีเล็กๆนี้จะผสานกันในสายตาของผู้ชม  มากกว่าการผสมสีอันเกิดจากการผสมบนจานสี
        -  ศิลปินคนสำคัญ  ได้แก่  จอร์จส์ เซอราท์ , คามิลล์ พีส์ซาร์โร , พอล ซิบัค
5. ศิลปะลัทธิประทับใจยุคหลัง  ( Post-Impressionism )
6. ศิลปะลัทธิบาศกนิยม  ( Cubism )  ค.ศ.1907-1910
7. ศิลปะลัทธิเหนือจริง  ( Surrealism )  ศิลปกรรมที่เปิดเผยความฝันและจิตใต้สำนึก
8. ศิลปะลัทธินามธรรม  ( Abstractionism )  ศิลปะไร้รูปลักษณ์
2. การปฏิวัติต่างๆ
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดาราศาสตร์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นผลให้นักเดินเรือสามารถเดินทางและกำหนดเป้าหมายได้อย่างมีระบบขยายการค้าและการติดต่อระหว่างตะวันออกกับตะวันตกได้
สาเหตุการสำรวจทางทะเล
1. ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และความรู้ด้านภูมิศาสตร์ แผนที่ของปิโตเลมี
2. การใช้เข็มทิศและความก้าวหน้าในการต่อเรือเดินสมุทร อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ความต้องการสินค้าและวัตถุดิบจากโลกตะวันออกโปรตุเกสเป็นชาติแรกที่เป็นผู้นำในการเดินเรือ นักสำรวจที่สำคัญ ได้แก่
- นาโธโลนิว ไดแอส สามารถเดินเรือเลียบทวีแอฟริกา อ้อมแหลมกู๊ดโฮป
-  วาสโกดา กามา เดินเรือมาทวีปเอเซีย ขึ้นฝั่งที่ประเทศอินเดีย
-  คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวอิตาลีค้นพบทวีปอเมริกา        
-  เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน นักแสวงโชคผู้สามารถเดินเรือรอบโลกได้เป็นผู้สำเร็จคนแรก
ความก้าวหน้าวิทยาศาสตร์สาขาอื่นนอกจากดาราศาสตร์
1. ทอร์ริเซลลี นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ประดิษฐ์บารอมิเตอร์เพื่อใช้วัดความกดดันของบรรยากาศ
2. เกอร์ริก ชาวเยอรมันพิสูจน์ว่าอากาศมีความดกดัน
3. เซอร์ ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่ศึกษาเรื่องการหักเหของแสง และแรงดึงดูดของโลก
4. พาราเซลซัส ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้ศึกษาเกี่ยวกับธาตุที่ใช้ในการรักษาโรค
5. โรเบิร์ต บอยล์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ศึกษาวิธีเตรียมฟอสฟอรัสจากน้ำปัสสาวะกับกระดูก และให้คำจำกัดความของ "ธาตุ" คือ สารที่จะไม่มีการแปร
ให้เป็นสิ่งอื่นได้เลย
6. โรเบิร์ต ฮุค ได้ตั้ง "กฎของบอยล์" ว่า อากาศหรือก๊าซเมื่อถูกความร้อนจะขยายตัว และถ้าอุณหภูมิมีค่าคงที่แล้ว ก๊าซจะมีปริมาณน้อยมากตามปฏิภาคอย่าง
กลับกับความกดดันของก๊าซนั้น ๆ และศึกษาว่าแสงเป็นคลื่นได้
7. เจมส์ วัตต์ นักประดิษฐ์ชาวสก็อตแลนด์ที่ได้เห็นเครื่องสูบน้ำของนิวโคเมนและได้นำมาพัฒนาเป็นเครื่องจักรกล ทำให้การปฏิวัติอุตสาหกรรมพัฒนาได้เร็วขึ้น
กระบวนการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่
การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ หมายถึง วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การสังเกต การตรวจสอบ และการทดลองอย่างมีหลักการและมีเหตุผล เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 16 - 18
นักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่
1. กาลิเลโอ ใช้กล้องโทรทรรศน์ยืนยันความถูกต้องของระบบสุริยจักรวาล
2. เซอร์ ไอแซค นิวตัน ค้นพบกฎการโน้มถ่วง แรงดึงดูดของโลก
3. โยฮันเนส เคปเลอร์ ค้นพบวงโคจรของดาวเคราะห์เป็นวงรีไม่ใช่วงกลม
4. เรอเน เดสการ์ต บิดาแห่งเรขาคณิตวิเคราะห์สมัยใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น